Wyrmwood: Apocalypse (2021)

เจ็ดปีหลังจากเหตุการณ์ใน Wyrmwood: Road of the Dead โลกยังคงจมอยู่ในความโกลาหลแห่งหายนะซอมบี้ ที่ดินรกร้างของออสเตรเลียกลายเป็นสนามรบสำหรับผู้รอดชีวิตที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ในใจกลางความเปลี่ยวและหวาดกลัว Rhys (Luke McKenzie) ทหารนักล่าผู้เงียบเศร้า ได้อุทิศชีวิตให้กับภารกิจสำคัญ – การตามล่าและจับกุมผู้รอดชีวิตเพื่อส่งมอบให้กับ Surgeon General ผู้ลึกลับ ด้วยความหวังที่จะค้นพบยารักษาโรคที่จะจบสิ้นหายนะครั้งนี้ แต่ความเป็นจริงกลับซับซ้อนกว่าที่คิด เมื่อ Rhys ได้พบกับ Grace (Tasia Zalar) สาวลึกลับที่เป็นไฮบริดระหว่างมนุษย์และซอมบี้ เธอผู้มีพลังพิเศษและอาจเป็นกุณแจสำคัญในการยุติวันสิ้นโลก ชีวิตของ Rhys เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Grace ไม่ได้อยู่คนเดียว เธอมีน้องสาว Maxi (Shantae Barnes-Cowan) ที่ต้องแยกจากกันในระหว่างการหลบหนี และยังมี Barry (Jay Gallagher) ผู้รอดชีวิตจากภาคแรกพร้อมกับ Brooke (Bianca Bradey) น้องสาวไฮบริดของเขาที่มีพลังสั่งการซอมบี้ด้วยจิตได้ เมื่อ Rhys ค้นพบความจริงที่น่าสะเทือนใจเกี่ยวกับแผนการของฝ่ายทหารและ Surgeon General ที่บิดเบือนและโหดเหี้ยม เขาต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ระหว่างความภักดีต่อหน้าที่กับการทำสิ่งที่ถูกต้อง การผจญภัยครั้งนี้จะพาเขาสู่การร่วมมือกับกลุ่มผู้ก่อกบฏ รวมถึง Grace, Maxi, Barry และ Brooke ในภารกิจอันอันตรายเพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์และต่อต้านระบบที่ทุจริต ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ Kiah Roache-Turner ที่กลับมาสร้างสรรค์ต่อเนื่องจากความสำเร็จของภาคแรก ด้วยการผสมผสานแอ็กชันสุดเข้มข้น อารมณ์ขันดำๆ และความรุนแรงแบบ splatter ที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อหาเต็มไปด้วยฉากการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมและเลือดสาด การออกแบบซอมบี้ที่สร้างสรรค์ รวมถึงไฮบริดไซบอร์กที่มีกรงเล็บโลหะและถูกควบคุมด้วยชุดหูฟัง VR ที่แปลกประหลาด บรรยากาศของภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจาก Mad Max และ Ozploitation films ของทศวรรษ 1970s-80s สร้างโลกหลังหายนะที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน การกำกับปรับปรุงจากภาคแรกด้วยเอฟเฟกต์พิเศษที่ดีขึ้น การถ่ายทำที่ลื่นไหลกว่า และการกำกับที่แน่นขึ้น แม้ว่าจะยังคงความบ้าคลั่งและอารมณ์ขันแบบเดิม ด้วยความยาวเพียง 88 นาที ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นความบันเทิงสุดเข้มข้นมากกว่าความลึกซึ้งของตัวละคร แต่ก็สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำด้วยความบ้าบิ่นที่มีเสน่ห์ ฉากท้ายจะนำทุกคนมารวมตัวกันในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยการนองเลือดอย่างสร้างสรรค์ ที่จะทำให้แฟนหนังสยองขวัญและแอ็กชันได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ Rhys จะสามารถไถ่บาปแห่งอดีตและช่วยกู้โลกจากหายนะซอมบี้ได้หรือไม่? และความลับที่แท้จริงของ Grace และพลังของเธอจะเป็นคำตอบสู่การยุติวันสิ้นโลกหรือไม่?

แนวหนัง
Post-Apocalyptic Horror, Zombie Action Comedy, Australian Exploitation, Splatter Film, Mad Max-Style Survival