Trance (2013) แทรนซ์ ย้อนเวลาล่าระห่ำ
เมื่อความจริงกลายเป็นภาพลวงตา และความจำเป็นศัตรูที่อันตรายที่สุด ในโลกที่เส้นแบ่งระหว่างความจริงกับความฝันไม่มีอยู่จริง แทรนซ์ ย้อนเวลาล่าระห่ำ คือไซโคโลยิคัลทริลเลอร์สุดบิดเบี้ยวที่จะทำให้คุณต้องตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่เห็น และไม่แน่ใจว่าอะไรคือความจริง การปล้นที่ผิดพลาด ไซมอน นิวตัน (เจมส์ แม็คอวอย) พนักงานประมูลงานศิลปะระดับผู้ช่วยที่บ้านประมูลดังแห่งลอนดอน ดูเหมือนจะเป็นเพียงชายธรรมดาที่รักงานศิลปะ แต่เขาซ่อนความลับมืดที่เกี่ยวข้องกับหนี้การพนันมหาศาล วันหนึ่ง แฟรงค์ (วินเซนต์ คาสเซล) หัวหน้าแก๊งโจรกรรมระดับมืออาชีพ นำทีมบุกเข้าปล้นภาพเขียนของ ฟรานซิสโก โกยา ชิ้นเอก “Witches in the Air” มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์ ตามแผนที่วางไว้ ไซมอนควรจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก๊งปล้น แต่เมื่อถึงเวลาตัดสินใจ เขากลับพยายามขัดขวางการปล้น แฟรงค์จึงต่อยเขาสลบ และคว้าถุงใส่ภาพหนีไป แต่เมื่อเปิดดู พวกเขาพบว่าข้างในมีเพียงกรอบภาพเปล่า ความจำที่สูญหาย การกระแทกที่หัวทำให้ไซมอนเป็นโรคความจำเสื่อม เขาจำไม่ได้เลยว่าได้ซ่อนภาพเขียนไว้ที่ไหน แฟรงค์และแก๊งพยายามทรมานและข่มขู่เพื่อให้เขาระลึกได้ แต่ไซมอนไม่สามารถจำอะไรได้จริงๆ ความหิวโหยเงินล้านทำให้แฟรงค์ตัดสินใจจ้าง เอลิซาเบท แลม (โรซาริโอ ดอว์สัน) นักจิตบำบัดที่เชี่ยวชาญการสะกดจิต เอลิซาเบทเป็นหญิงสาวสวยปริศนาที่มีเสน่ห์เย้ายวนและสติปัญญาเฉียบแหลม เธอใช้เทคนิคการสะกดจิตเพื่อเจาะลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของไซมอน เพื่อค้นหาความทรงจำที่หายไป แต่ยิ่งเธอขุดคุ้ยลึก ก็ยิ่งค้นพบความลับที่มืดมนและซับซ้อนมากขึ้น เกมแห่งการหลอกลวง เมื่อเอลิซาเบทเริ่มเซสชั่นการสะกดจิต ขอบเขตระหว่างความจริง ความฝัน และการถูกชี้นำเริ่มพร่ามัว ไซมอนเริ่มมีความทรงจำที่เหมือนจริง แต่อาจเป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้น ทุกเซสชั่นเผยให้เห็นชิ้นส่วนของปริศนาใหม่ๆ แต่กลับทำให้ภาพรวมยิ่งสับสนมากขึ้น สิ่งที่เริ่มเป็นการค้นหาภาพเขียนที่หายไป กลับกลายเป็นการเดินทางสู่ความมืดที่ลึกที่สุดของจิตใจมนุษย์ เอลิซาเบทค้นพบว่าไซมอนมีอดีตที่เกี่ยวข้องกับเธออย่างใกล้ชิด และความหลงใหลของเขาที่มีต่อเธออาจเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกความทรงจำ ความสัมพันธ์รักสามเส้าระหว่างไซมอน เอลิซาเบท และแฟรงค์เริ่มก่อตัวขึ้น ทำให้เกิดความอิจฉาริษยาและการแข่งขัน แต่ใครคือคนที่ควบคุมใครกันแน่? และอะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริงของแต่ละคน? ความจริงที่บิดเบี้ยว เมื่อภาพจิ๊กซอว์ชิ้นต่างๆ เริ่มประกอบรวมกัน ผู้ชมจะได้เห็นว่าไม่มีใครเป็นอย่างที่ดูภายนอก ไซมอนอาจไม่ใช่เหยื่อผู้บริสุทธิ์ เอลิซาเบทอาจมีวาระซ่อนเร้น และแฟรงค์อาจไม่ใช่คนร้ายตัวจริง ทุกฉากที่ผ่านมาต้องถูกตีความใหม่เมื่อความจริงเริ่มเผยออกมา การใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบ Rashomon ทำให้เหตุการณ์เดียวกันถูกเล่าจากมุมมองที่แตกต่างกัน สิ่งที่เราเห็นในช่วงแรกอาจเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง หรือความจริงที่ถูกกรองผ่านจิตใต้สำนึกที่ถูกชี้นำ ดูแล ดั่นนี่ บอยล์ ผู้กำกับจาก “Slumdog Millionaire” และ “Trainspotting” สร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันจัดจ้านและการถ่ายทำที่สร้างสรรค์ ด้วยเทคนิคการตัดต่อที่รวดเร็วและการใช้มุมกล้องที่แปลกใหม่ เขาสร้างโลกที่เหมือนจริงแต่เหนือจริงไปพร้อมกัน เจมส์ แม็คอวอย แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทไซมอน ชายที่ต้องเผชิญกับด้านมืดในอดีตของตัวเอง โรซาริโอ ดอว์สัน สร้างเสน่ห์ลึกลับในบทเอลิซาเบท หญิงที่ใช้เพศภาวะและสติปัญญาเป็นอาวุธ และ วินเซนต์ คาสเซล แสดงบทแฟรงค์ด้วยความเข้มข้นและความซับซ้อนที่น่าประทับใจ

คำเตือน: หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเรื่องเพศ ความรุนแรง และฉากการทรมานที่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม