The Last Voyage of the Demeter (2023)

สร้างจากบทเดียวที่หลอนเหลือเกินในนิยายคลาสสิก Dracula ของ Bram Stoker หนังเรื่องนี้พาเราไปสัมผัสเรื่องราวสุดระทึกของเรือพาณิชย์ Demeter ที่เดินทางสู่ความหายนะ เมื่อปี 1897 เรือพาณิชย์ Demeter เข้าฝั่งที่อังกฤษอย่างลึกลับ ไม่มีวิญญาณใดหลงเหลือบนเรือ มีเพียงบันทึกของกัปตัน Eliot ที่บอกเล่าเหตุการณ์สยองขวัญบนมหาสมุดรเรื่องเริ่มต้นเมื่อเรือ Demeter จอดที่ท่าเรือ Varna ประเทศบัลแกเรีย เพื่อขนส่งสินค้าลึกลับ 50 กล่องไม้ที่ไม่มีป้ายกำกับจากแคว้น Carpathia ไปยังลอนดอน แต่ชาวบ้านท้องถิ่นปฏิเสธที่จะขนสินค้าขึ้นเรือ ยืนยันว่าต้องออกจากพื้นที่ก่อนพระอาทิตย์ตกดินด็อกเตอร์ Clemens นักแพทย์ผู้มีความรู้จากมหาวิทยาลัย Cambridge เข้าร่วมลูกเรือหลังจากที่ช่วยชีวิตหลานชายของกัปตัน แต่เมื่อเหตุการณ์แปลกประหลาดเริ่มเกิดขึ้นบนเรือ ลูกเรือค่อยๆ ค้นพบว่าพวกเขากำลังถูกสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในเรือไล่ล่าทุกคืน สิ่งมีชีวิตนั้นคือ Dracula ราชาแวมไพร์ที่มีรูปลักษณ์ เหมือนค้างคาวยักษ์ที่บินไปมาบนดาดฟ้าเรือที่เปียกฝนAnna สาวผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของ Dracula กลายเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้ ขณะที่ ลูกเรือพยายามดักจับ Dracula และจมเรือ แต่แผนล้มเหลว แวมไพร์สังหารลูกเรือส่วนใหญ่และกัด Anna ในที่สุด เรือ Demeter ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งแทนที่จะจมลง ทำให้ Dracula หลบหนีได้สำเร็จ ส่วน Anna เลือกเผาตัวเองในแสงแดดยามเช้าเพื่อไม่ให้กลายเป็นแวมไพร์หนังจบด้วย Clemens ที่รอดชีวิตมาถึงลอนดอน และพบ Dracula ในร่างขุนนางที่หัวเราะเยาะเขา ก่อนที่แวมไพร์จะหายไป เตรียมพร้อมสำหรับการล่าที่จะมาถึงหนังเรื่องนี้ เน้นบรรยากาศสยองขวัญบนเรือ การออกแบบฉากที่ยอดเยี่ยม และการแสดงของนักแสดง โดยเฉพาะ Corey Hawkins ในบท Clemens, Aisling Franciosi ในบท Anna และ Javier Botet ในบท Dracula ภาพยนตร์ได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลาย และทำรายได้ 21.7 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก

แนวหนัง: Horror, Supernatural Thriller, Gothic Horror, Monster Movie, Period Drama