The Djinn (2021) เดอะจินน์

ในคืนหนึ่งของปี 1989 ไดแลน เจคอบส์ (Ezra Dewey) เด็กชายพิการใบ้วัย 12 ปี ต้องเผชิญกับบาดแผลทางใจจากการสูญเสียแม่ด้วยการฆ่าตัวตาย หลังย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่กับพ่อผู้เป็นดีเจวิทยุ เขาได้ค้นพบหนังสืออาถรรพ์ที่ซ่อนอยู่ในห้องหนึ่ง พร้อมคำสาปและคำแนะนำในการเรียกจินน์เพื่อขอพรให้ความปรารถนาเป็นจริงด้วยความโหยหาที่อยากมีเสียงพูดเหมือนคนปกติ ไดแลนจึงตัดสินใจทำพิธีกรรมเพื่อเรียกจินน์อันชั่วร้ายขึ้นมา แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับไม่ใช่ความหวังดังที่คิด แต่เป็นฝันร้ายที่เริ่มต้นขึ้น จินน์ที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นไม่ใช่วิญญาณผู้ให้ แต่เป็นปีศาจที่หิวกระหายวิญญาณมนุษย์ มันสามารถแปลงร่างเป็นคนตายและใช้ความกลัวของเหยื่อเป็นอาหารเมื่อถูกขังอยู่ในบ้านด้วยพลังเหนือธรรมชาติ ไดแลนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของจินน์ตลอดหนึ่งชั่วโมง เขาค้นพบว่าจินน์สามารถกลับคืนสู่โลกของมันได้ก็ต่อเมื่อเขาดับเทียนหลังเที่ยงคืนเท่านั้น แต่การต่อสู้นี้ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาด แต่เป็นการเผชิญหน้ากับความผิดและความกลัวภายในใจของเขาเองจินน์แปลงร่างเป็นแม่ผู้ล่วงลับของไดแลน พยายามหลอกล่อให้เขายอมแพ้ด้วยเสียงอันอ่อนโยนที่เขาคิดถึง เมื่อเข็มนาฬิกาเดินผ่านเที่ยงคืน ไดแลนจะสามารถดับเทียนและขับไล่จินน์ได้หรือไม่ และหากเขาทำสำเร็จ ความปรารถนาที่เขาขอไปนั้นจะมาพร้อมกับราคาที่เขาต้องจ่ายหรือไม่The Djinn เป็นหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติที่สร้างสรรค์ความน่าขนลุกด้วยงบประมาณจำกัด ใช้พื้นที่เพียงอพาร์ตเมนต์หลังเดียวแต่สามารถสร้างบรรยากาศอึมครึมและความกดดันได้อย่างน่าประทับใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับการ “ระวังสิ่งที่คุณปรารถนา” พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความกล้าหาญและความรับผิดชอบในช่วงวัยเด็ก

แนวหนัง: Horror, Supernatural, Thriller, Psychological Horror