The Darkness within La Luz del Mundo (2023)
The Darkness within La Luz del Mundo (2023)
ในปี 2019 โลกได้รับรู้ถึงความจริงอันน่าสะพรึงกลัวเมื่อ Naasón Joaquín García ผู้นำของคริสตจักร La Luz del Mundo (แสงสว่างแห่งโลก) ที่ปรากฏตัวเป็น “อัครสาวกของพระเยซูคริสต์” ถูกจับกุมที่สนามบินลอสแองเจลิสในข้อหาร้ายแรง 26 ข้อหา รวมถึงการค้ามนุษย์ การข่มขืน และการครอบครองสื่อลามกเด็ก แต่ภายใต้การล่มสลายของผู้นำคนนี้ ยังมีความลับดำมืดที่ถูกเก็บซ่อนมานานหลายทศวรรษ The Darkness within La Luz del Mundo สารคดีสุดระทึกจาก Netflix ที่กำกับโดย Carlos Pérez Osorio นำเสนอเสียงของผู้รอดชีวิตที่กล้าหาญออกมาเล่าเรื่องราวความทรมานที่พวกเขาประสบภายใต้การนำของผู้นำศาสนาสามรุ่น ครอบครัว Joaquín ที่ครองอำนาจในคริสตจักรขนาดใหญ่แห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 90 ปี คริสตจักร La Luz del Mundo ก่อตั้งขึ้นในปี 1926 ที่เมืองกวาดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก โดย Aarón Joaquín González ผู้ที่อ้างว่าได้รับการเลือกจากพระเจ้าให้เป็นอัครสาวกในยุคสมัยใหม่ ต่อมาอำนาจได้ถ่ายทอดไปยัง Samuel Joaquín Flores บุตรชายของเขา และสุดท้ายมาถึง Naasón Joaquín García หลานชาย ที่กลายเป็นใบหน้าของความเสื่อมทรามที่ซ่อนอยู่ภายในองค์กรศาสนาที่ดูศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวคือการค้นพบว่าการล่วงละเมิดทางเพศนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่เป็นรูปแบบที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นก่อตั้ง ผู้หญิงและเด็กหญิงถูกล่อลวงด้วยคำสอนทางศาสนาที่บิดเบือน ถูกบอกว่าการรับใช้ “อัครสาวก” คือพรของพระเจ้า และการต่อต้านคือการต่อต้านพระเจ้าเอง ผ่านการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตที่ปกปิดตัวตนด้วยนาม “Jane Doe” เราได้ยินเสียงของผู้หญิงที่กล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อเปิดเผยความจริง พวกเขาเล่าถึงการถูกล่อลวงตั้งแต่เด็ก การถูกแยกออกจากครอบครัว และการถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจในนามของความศรัทธา สิ่งที่ทำให้สารคดีนี้มีพลังคือการที่ผู้กำกับให้ความสำคัญกับเสียงของเหยื่อเป็นหลัก โดยไม่ใช้เทคนิคดราม่าหรือดนตรีที่เร้าอารมณ์เกินไป เพื่อให้ผู้ชมได้มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวและความเจ็บปวดที่แท้จริงของผู้รอดชีวิต การเล่าเรื่องที่เป็นกลางและให้ข้อมูลครบถ้วนทำให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงความซับซ้อนของการควบคุมทางจิตใจและพลังของการบงการทางศาสนา สารคดีเผยให้เห็นว่าแม้หลังจากการจับกุม Naasón สมาชิกคริสตจักรส่วนใหญ่ยังคงปกป้องเขาและปฏิเสธข้อกล่าวหา พวกเขาเชื่อว่าการจับกุมนี้เป็นการข่มเหงทางศาสนา และ Naasón คือเหยื่อของการสมคบคิด ความภักดีที่ไม่หวั่นไหวนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการปลูกฝังและการควบคุมทางจิตใจที่ลึกซึ้ง การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของผู้รอดชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรค ตั้งแต่การข่มขู่ การไม่ได้รับความเชื่อถือจากชุมชน ไปจนถึงการต่อสู้กับระบบกฎหมายที่ซับซ้อน ในที่สุด Naasón ได้รับโทษจำคุก 16 ปี 8 เดือน หลังจากรับสารภาพในบางข้อหา แต่สำหรับผู้รอดชีวิตหลายคน การลงโทษนี้ยังไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
The Darkness within La Luz del Mundo ไม่เพียงเป็นสารคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศ แต่เป็นการสำรวจลึกซึ้งถึงวิธีที่ศาสนาสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการครอบงำและเอารัดเอาเปรียบ เป็นเสียงเตือนใจของอันตรายที่เกิดขึ้นเมื่ออำนาจทางศาสนาไม่มีการตรวจสอบและถ่วงดุล
แนวหนัง: Documentary, True Crime, Religious Abuse, Social Issues
Be the first to comment