Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso (2023) กาแฟ ฆาตกรรม และเจสสิก้า วองโซ
Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso (2023) กาแฟ ฆาตกรรม และเจสสิก้า วองโซ
ปี 2016 ที่กรุงจาการ์ตา การเจอกันแบบปกติของเพื่อนสนิทกลายเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญทั้งอินโดนีเซีย เมื่อ Mirna Salihin วัย 27 ปี เสียชีวิตอย่างกะทันหันหลังจากดื่มกาแฟเวียดนามเย็นในร้าน Olivier Café กับเพื่อนรัก Jessica Wongso สิ่งที่เริ่มต้นจากการนัดพบแบบธรรมดากลับกลายเป็น “คดีแห่งศตวรรษ” ที่จุดประกายความขัดแย้งในสังคมและระบบยุติธรรมอินโดนีเซีย Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso สารคดีจาก Netflix ที่กำกับโดย Rob Sixsmith ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมจริง พาเราย้อนกลับไปสำรวจคดีที่เต็มไปด้วยปริศนาและความสงสัย ผ่านมุมมองของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตั้งแต่ครอบครัวผู้เสียหาย ทีมแก้ต่างของ Jessica ไปจนถึงสื่อมวลชนและประชาชนที่ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ในหัวใจของเรื่อง คือคำถามหลักที่ว่า Jessica Wongso เพื่อนซี้ของ Mirna จริง ๆ แล้วได้วางยาไซยาไนด์ในกาแฟเพื่อนตัวเองหรือไม่ การสืบสวนของตำรวจและการพิจารณาคดีที่ยืดเยื้อนานหลายเดือนเผยให้เห็นช่องโหว่และข้อสงสัยมากมายที่ทำให้คนทั้งประเทศแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า Jessica เป็นฆาตกร อีกกลุ่มหนึ่งมั่นใจว่าเธอเป็นเพียงแพะรับบาป สารคดีให้ความสำคัญกับ Edi Darmawan Salihin พ่อของ Mirna ผู้ซึ่งกลายเป็นใบหน้าของความเศร้าโกรธและการต่อสู้เพื่อหาความยุติธรรมให้ลูกสาว แต่ขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นความซับซ้อนของตัวละครที่มีมากกว่าภาพลักษณ์ของพ่อผู้อาลัย นอกจากนี้ยังมี Made Sandy Salihin แฝดของ Mirna ที่แสดงความเห็นแตกต่างจากพ่อในบางประเด็น การสัมภาษณ์ Otto Hasibuan ทนายชื่อดังที่รับผิดชอบปกป้อง Jessica เผยให้เห็นความพยายามในการต่อสู้กับระบบที่ดูเหมือนจะตัดสินใจแล้วตั้งแต่ต้น ขณะที่ฝั่งอัยการยืนยันหลักฐานที่ชี้ไปที่ Jessica แต่ผู้ชมจะได้พบว่าหลักฐานเหล่านั้นอาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่คิด สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือการแสดงให้เห็นว่าสื่อมวลชนและความนิยมของประชาชนส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไร การพิจารณาคดีที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์กลายเป็นละครเรื่องจริงที่ทุกคนจับตามอง ความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียและการตัดสินของ “นักสืบออนไลน์” มีอิทธิพลต่อบรรยากาศโดยรวมของคดี การปฏิเสธของ Jessica ที่จะยอมรับผิดแม้จะมีโอกาสลดโทษ การที่เธอยืนยันความบริสุทธิ์จนวินาทีสุดท้าย และการที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ให้สัมภาษณ์ในเรือนจำ ล้วนเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของคดีมีความซับซ้อนมากขึ้น สารคดีนี้ไม่เพียงเล่าเรื่องราวอาชญากรรม แต่ยังเป็นการวิเคราะห์ระบบยุติธรรมอินโดนีเซีย การทำงานของสื่อ และพลังของความคิดเห็นสาธารณะที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของคนคนหนึ่งได้ ผู้ชมจะได้เรียนรู้ว่าความจริงไม่ได้ขาวดำเสมอไป และบางครั้งระบบที่ควรจะปกป้องความยุติธรรมกลับเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาความจริง
แนวหนัง: Documentary, True Crime, Legal Thriller, Social Commentary
Be the first to comment