Final Destination: Bloodlines (2025) ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย

เมื่อฝันร้ายกลายเป็นมรดกแห่งความตาย และเลือดสายครอบครัวกลับเป็นคำสาปอันเนื่องมาจากอดีต Stefani Reyes (Kaitlyn Santa Juana) นักศึกษาวิทยาลัยผู้ต้องทนทุกข์จากฝันร้ายที่เหมือนจริงเกี่ยวกับการล่มสลายของอาคารสูงในปี 1969 ฝันร้ายที่ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการ แต่เป็นการนิมิตครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นกับ Iris Campbell (Brec Bassinger / Gabrielle Rose) ย่าของเธอในคืนหมั้นที่ Sky View Restaurant Tower สิ่งก่อสร้างสูงระฟ้าแห่งใหม่ ในคืนที่มีการเปิดร้านอาหารพร้อมดนตรีสดบนยอดตึก Iris ได้นิมิตการเกิดเหตุการณ์สยองขวัญ ซึ่งเศษแก้วจากโคมระย้าทำให้พื้นแก้วร้าวและเครื่องทำความร้อนรั่วจนเกิดระเบิด ทำให้อาคารทั้งหลังพังทลายและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ Iris สามารถหยุดยั้งภัยพิบัติได้ทันเวลา ช่วยชีวิตแขกผู้เข้าร่วมงานทุกคน โดยไม่รู้ว่าการกระทำนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคำสาปที่ตามหลอกหลอนครอบครัวเธอมายาวนาน เพราะ “ความตาย” ไม่เคยลืมเส้นสายเลือดของผู้ที่ควรจะตายในวันนั้น เมื่อการนอนหลับของ Stefani ถูกรบกวนจนส่งผลต่อการเรียนและชีวิตประจำวัน เธอตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเพื่อหาคำตอบ ทว่าครอบครัวของเธอไม่ต้องการให้ขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต พ่อ Marty และน้องชาย Charlie ต่างเก็บความลับเกี่ยวกับ Iris ไว้อย่างแน่นหนา ขณะที่ลุง Howard รู้สึกไม่พอใจที่ Stefani มาถามเรื่องแม่ของเขา การค้นหาความจริงนำ Stefani ไปพบกับ Iris ย่าที่หลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมห่างไกลผู้คน ปกป้องตัวเองด้วยกับดักและสิ่งกีดขวางมากมาย Iris เผยให้หลานสาวฟังว่า ตั้งแต่หยุดยั้งเหตุการณ์ที่ Sky View Tower ความตายได้ตามล่าไม่เพียงแต่ผู้รอดชีวิต แต่ยังรวมถึงลูกหลานของพวกเขาด้วย เด็กและหลานทุกคนล้วนอยู่ในเป้าหมายของความตาย Iris อธิบายว่า Stefani เริ่มมีนิมิตเพราะถึงเวลาของสายเลือด Campbell แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มพิสูจน์ทฤษฎีนี้เมื่อ Iris เสียชีวิตจากการถูกใบพัดลมบนหลังคาร่วงลงมาเสียบทะลุศีรษะขณะที่เธอพยายามตามลูกสาวที่กำลังจะเดินออกไป Stefani กลับมาพร้อมหนังสือบันทึกการวิจัยของ Iris ที่ระบุลำดับการตายของสมาชิกครอบครัว การคาดการณ์นี้เป็นจริงเมื่อลุง Howard เสียชีวิตจากการล้มใส่เครื่องตัดหญ้าในงานบาร์บีคิวครอบครัว หลังจากนั้น Erik ลูกชายคนโตของ Howard กลายเป็นเป้าหมายถัดไป แต่เขารอดพ้นจากเพลิงไหม้ที่ร้านสักอย่างน่าอัศจรรย์ ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อ Julia น้องสาวของ Erik กลับเสียชีวิตแทน สาเหตุที่ Erik รอดชีวิตก็เพราะเขาไม่ใช่ลูกแท้ของ Howard แต่เป็นผลจากความสัมพันธ์นอกใจของแม่ จึงไม่มีสายเลือดเชื่อมโยงกับ Iris ครอบครัวติดตามหา “JB” บุคคลลึกลับในบันทึกของ Iris และพบว่าเขาคือ William Bludworth (Tony Todd ในบทบาทสุดท้าย) ช่างศพผู้ลึกลับที่เป็นเด็กชายคนสุดท้ายที่จะเสียชีวิตในนิมิตของ Iris Bludworth เผยว่ามีวิธีเอาชนะความตายสองทาง คือ ฆ่าคนอื่นเพื่อขโมยเวลาที่เหลือของเขา หรือตายแล้วฟื้นคืนชีพ Erik เสนอแผนให้ Bobby น้องชายที่แพ้ถั่วลิสงอย่างรุนแรงกินถั่วจนเกิดอาการแพ้ถึงตาย แล้วใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจช่วยชีวิต แต่แผนผิดพลาดเมื่อเครื่อง MRI ทำงานผิดปกติ ดึงเครื่องประดับโลหะของ Erik จนเขาถูกบดทับเสียชีวิต เป็นการลงโทษที่พยายามหลบหลีกแผนการของความตาย ในท้ายที่สุด Stefani, Charlie และ Darlene แม่ของพวกเขาที่เพิ่งกลับมา ต้องหลบหนีไปยังกระท่อมของ Iris เพื่อหลีกหนีจากความตาย แต่ชะตากรรมไม่เคยผิดพลาด และการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Zach Lipovsky และ Adam B. Stein ผู้สร้างสรรค์ฉากการตายที่ทั้งสร้างสรรค์และน่าสะพรึงกลัว เป็นภาคที่ยาวที่สุดในซีรีส์ Final Destination ด้วยความยาว 109 นาที และเป็นภาคแรกที่มีซับไตเติ้ล หนังเรื่องนี้ไม่เพียงนำเสนอความสยองขวัญและฉากการตายที่สร้างสรรค์ แต่ยังสำรวจธีมเรื่องครอบครัว ชะตากรรม และราคาที่ต้องจ่ายเมื่อพยายามต่อต้านกฎธรรมชาติ ทั้งยังเป็นการลาอำลาอย่างซาบซึ้งต่อ Tony Todd ในบทบาทสุดท้ายของเขา

แนวหนัง:
Horror | Supernatural Thriller | Slasher | Death Mystery | Gore Horror | Psychological Thriller | Family Curse | Premonition Horror