Dreamin’ Wild (2023)

โดนนี่ เอเมอร์สัน (Casey Affleck) คือชายวัยกลางคนผู้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและความเสียใจ เขาเป็นนักดนตรีท้องถิ่นในรัฐวอชิงตัน ดิ้นรนทำมาหากินด้วยการเล่นดนตรีในผับเล็ก ๆ ร่วมกับ แนนซี่ (Zooey Deschanel) ภรรยาผู้เป็นนักกลองและแม่ของลูกสองคน พร้อมทั้งบริหารสตูดิโอบันทึกเสียงเล็ก ๆ ที่ขาดทุนมาตลอด แต่ไม่ใช่ว่าโดนนี่จะมีแค่ความฝันเท่านั้น เพราะเขามีประวัติอันลึกซึ้งที่ฝังอยู่ในอดีต กลับไปปี 1979 เมื่อเขาและ โจ (Walton Goggins) น้องชายวัย 18 ปี ได้ร่วมกันสร้างสรรค์อัลบั้มชื่อ “Dreamin’ Wild” ในยุคที่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 16 และ 18 ปี คุณพ่อ ดอน ซีเนียร์ (Beau Bridges) ผู้เป็นคนตัดไม้ที่มีหัวใจใหญ่ได้เสียเงินก้อนโต 100,000 ดอลลาร์ ในการสร้างสตูดิโอบันทึกเสียงในโรงนาข้างบ้าน เพื่อให้ลูกชายได้ตามไล่ความฝันดนตรี เขาเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของลูกชายมากจนยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอัลบั้มด้วยตัวเอง แต่ความฝันครั้งนั้นกลับจบลงด้วยความผิดหวังอย่างสิ้นเชิง เมื่ออัลบั้มไม่มีใครซื้อ พวกเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตธรรมดาอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางกองกล่องแผ่นเสียงที่ไม่มีใครต้องการนับแสนแผ่น จนกระทั่ง 30 ปีต่อมา… แมตต์ ซัลลิแวน (Chris Messina) ตัวแทนจากค่ายเพลง Light in the Attic Records ได้มาเคาะประตูบ้านของครอบครัวเอเมอร์สัน ด้วยข่าวดีที่ไม่น่าเชื่อ นักสะสมแผ่นเสียงคนหนึ่งได้ค้นพบอัลบั้ม “Dreamin’ Wild” และหลงรักในดนตรีบลู-อายด์ โซลที่ไพเราะและหลอนใจ จนรีวิวในโลกออนไลน์และทำให้เกิดกระแสไวรัล นักวิจารณ์ดนตรีเริ่มยกย่องอัลบั้มนี้ว่าเป็น “Lost Masterpiece” ผลงานชิ้นเอกที่สาบสูญ ค่ายเพลงต้องการทำการรีอิชชูและอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของพี่น้องเอเมอร์สันที่จะได้เป็นดารา ในขณะที่ครอบครัวคนอื่น ๆ ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความหวัง โดนนี่กลับรู้สึกหนักใจและกดดัน เขาต้องเผชิญหน้ากับความผิดที่ฝังใจมานาน ทั้งการที่ทำให้ครอบครัวต้องเสียเงินไปกับความฝันที่ไม่เป็นจริง และความรู้สึกซับซ้อนที่มีต่อโจ น้องชายที่แท้จริงแล้วมีความสามารถทางดนตรีจำกัด แต่ต้องมาร่วมเดินทางในความฝันของพี่ชาย ผู้กำกับ บิล โพลแฮด ผู้สร้าง “Love & Mercy” ไบโอปิคของไบรอัน วิลสัน นำเสนอเรื่องราวที่ไม่เหมือนหนังดนตรีแบบทั่วไป โดยเน้นไปที่ ผลกระทบทางจิตใจ ของความสำเร็จที่มาช้า และความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัวเมื่อความฝันเก่าถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของการกลับมาสู่ความสำเร็จ แต่เป็นการสำรวจลึกถึงประเด็นว่าความฝันวัยรุ่นส่งผลต่อตัวตนของเราในวัยผู้ใหญ่อย่างไร และบางครั้งความฝันเหล่านั้นอาจกลายเป็นผีที่หลอกหลอนมากกว่าแรงบันดาลใจ ด้วยการแสดงสุดประทับใจของ Casey Affleck ที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดได้อย่างละเอียดอ่อน และการสนับสนุนจาก Walton Goggins ในบทโจ น้องชายผู้อ่อนโยนที่ยอมรับบทบาทตัวรองในชีวิต Dreamin’ Wild คือการเดินทางสู่การยอมรับอดีต การให้อภัยตัวเอง และการค้นหาความหมายใหม่ของความสำเร็จ ท่ามกลางครอบครัวที่รักและเชื่อมั่นในกันและกันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

แนวหนัง:
Biographical Drama / Musical Drama / Family Drama / Coming-of-Age / Indie Film / Character Study