Deepwater Horizon (2016) ฝ่าวิบัติเพลิงนรก
เมื่อความโลภนำมาซึ่งภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ในวันที่ความกำไรสำคัญกว่าชีวิตมนุษย์ ฝ่าวิบัติเพลิงนรก คือภาพยนตร์ดิสแอสเตอร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงสุดเศร้าที่จะทำให้คุณได้เห็นวีรกรรมของคนธรรมดาท่ามกลางการระเบิดและไฟนรกที่ไม่มีวันลืม วันอันแสนปกติที่กลายเป็นวันนรก
20 เมษายน 2010 เป็นวันที่ดูเหมือนธรรมดาสำหรับคนงาน 126 คนบนแท่นเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งหลุยเซียนา 49 ไมล์ในอ่าวเม็กซิโก ไมค์ วิลเลียมส์ (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก) ช่างเทคนิคอิเล็กทรอนิกส์หัวหน้า เริ่มต้นวันด้วยการลาภรรยา เฟลิเซีย (เคท ฮัดสัน) และลูกสาวเพื่อไปทำงาน 21 วันบนแท่นเจาะ โดยไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นวันสุดท้ายที่ชีวิตจะเหมือนเดิม
เมื่อไมค์และผู้บังคับบัญชา จิมมี่ ฮาร์เรลล์ (เคิร์ต รัสเซลล์) มาถึงแท่นเจาะ พวกเขาพบว่าทีมช่าง Schlumberger ที่รับผิดชอบการทดสอบแรงดันคอนกรีตพื้นฐานได้ถูกส่งกลับก่อนเวลา โดย โดนัลด์ วิดริน (จอห์น มัลโควิช) ตัวแทนจาก BP ที่กดดันให้เริ่มการผลิตทันที เพราะโครงการล่าช้าไปแล้ว 49 วัน ความขัดแย้งระหว่างความปลอดภัยกับความกำไร วิดรินผลักดันให้ข้ามขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยเพื่อประหยัดเวลาและเงิน ในขณะที่จิมมี่ซึ่งรับผิดชอบต่อชีวิตของลูกน้องยืนยันว่าต้องทำการทดสอบให้ครบถ้วน ความตึงเครียดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมบริษัทที่ให้ความสำคัญกับกำไรมากกว่าความปลอดภัย บนแท่นเจาะยังมีเหล่าคนงานผู้กล้าหาญอื่นๆ ได้แก่ แอนเดรีย เฟลย์ทาส (จีน่า โรดริเกซ) หนึ่งในหญิงไม่กี่คนบนแท่นเจาะที่ทำหน้าที่ควบคุมการเดินทางและการสื่อสาร เคเลบ ฮอลโลเวย์ (ดีแลน โอไบรน์) และคนงานเจาะที่มีประสบการณ์มากมายที่พร้อมจะปกป้องกันและกัน ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ เมื่อการทดสอบแรงดันเผยให้เห็นสัญญาณเตือนที่น่าวิตก แต่ภายใต้แรงกดดันจาก BP ทีมงานยังคงดำเนินการต่อไป ปัญหาเริ่มต้นเมื่อก๊าซธรรมชาติที่มีแรงดันสูงเริ่มรั่วไหลจากหลุมเจาะลึก 18,000 ฟุต ระบบควบคุมแรงดันล้มเหลว และก๊าซเริ่มพุ่งขึ้นผ่านท่อขนาดใหญ่ ในเวลาไม่กี่นาที สถานการณ์บานปลายเป็นการระเบิดครั้งแรกที่ทำลายระบบไฟฟ้าและการควบคุม ตามด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแท่นเจาะให้กลายเป็นนรกเพลิงไหม้ ไฟลุกโชนสูงเป็นร้อยเมตร แรงระเบิดทำให้อุปกรณ์หนักหลายตันปลิวว่อนไปมา ฮีโร่แห่งความอยู่รอด ท่ามกลางเปลวไฟและควันหนาทึบ ไมค์และเพื่อนร่วมงานต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด จิมมี่ใช้ประสบการณ์และความเป็นผู้นำในการประสานงานการอพยพ แอนเดรียทำการติดต่อหน่วยยามฝั่งแม้จะไม่มีอำนาจในการดำเนินการ ซึ่งเป็นการกระทำที่กล้าหาญและเป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือ ไมค์ต้องเผชิญกับการเลือกระหว่างความปลอดภัยของตัวเองกับการช่วยเพื่อนร่วมงานที่ติดอยู่ใต้ซากเหล็กและเศษเหล็กที่ร้อนระอุ เขาและทีมงานต้องใช้ปัญญาและความกล้าหาญในการอพยพผู้คนผ่านเปลวไฟและควันพิษไปยังเรือช่วยเหลือ ราคาแห่งความโลภ การระเบิดของ Deepwater Horizon ไม่เพียงคร่าชีวิตคนงาน 11 คน แต่ยังกลายเป็นภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ น้ำมันดิบกว่า 210 ล้านแกลลอนรั่วไหลสู่อ่าวเม็กซิโก ทำลายระบบนิเวศทางทะเลและชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชาวประมงเป็นเวลาหลายปี ปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับจาก “Lone Survivor” สร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่สมจริงและน่าเชื่อถือด้วยเทคนิคการถ่ายทำแบบไฮเปอร์เรียล การใช้เสียงระบบ Dolby Atmos ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางการระเบิด และเอฟเฟกต์พิเศษที่ส่วนใหญ่ทำจริงมากกว่า CGI การแสดงของ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก ในบทไมค์แสดงให้เห็นถึงคนธรรมดาที่กลายเป็นฮีโร่ในสถานการณ์วิกฤต ขณะที่ เคิร์ต รัสเซลล์ สร้างความประทับใจในบทผู้นำที่ใส่ใจในความปลอดภัยของลูกน้อง และ จอห์น มัลโควิช แสดงได้อย่างน่าเกลียดชังในบทตัวร้ายตัวจริงของเรื่อง

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นมากกว่าหนังแอ็กชัน แต่เป็นการระลึกถึงผู้เสียสละและการเตือนสติเกี่ยวกับผลที่ตามมาเมื่อความโลภมีชัยเหนือความรับผิดชอบ

คำเตือน: หนังเรื่องนี้มีฉากการระเบิดและความรุนแรงที่สมจริง ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กและผู้ที่อ่อนไหวต่อเสียงดังและแสงไฟ