Death of a Unicorn (2025)

เมื่อความบริสุทธิ์กลายเป็นความโลภ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถูกเปลี่ยนให้เป็นสินค้า นักบิดเบือนแห่งศตวรรษใหม่นี้จะเริ่มต้นขึ้นจากอุบัติเหตุเล็กๆ ที่เปลี่ยนทุกสิ่งในทันที Elliot Kintner (Paul Rudd) ทนายความผู้ต้องการสร้างความประทับใจลูกค้าคนสำคัญ เดินทางไปยังคฤหาสน์หรูหราในเทือกเขาร็อกกี้แคนาดา พร้อมกับ Ridley (Jenna Ortega) ลูกสาววัยรุ่นผู้ยังไม่สามารถให้อภัยพ่อจากการสูญเสียแม่เมื่อไม่นานมานี้ การเดินทางครั้งนี้มุ่งหน้าสู่งานสุดสัปดาห์ที่บ้านของ Odell Leopold (Richard E. Grant) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเภสัชกรรมมหาขนาดผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย.ระหว่างทาง การขับรถที่ประมาทผสมกับการถกเถียงและอาการแพ้ของ Elliot ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด รถของพวกเขาชนกับยูนิคอร์นตัวเล็กที่วิ่งผ่านถนน เมื่อ Ridley สัมผัสเขาของมัน เธอได้รับนิมิตลึกลับเกี่ยวกับจักรวาลและธรรมชาติที่เหนือโลก แต่ Elliot ตัดสินใจจบชีวิตสัตว์ที่บาดเจ็บด้วยไขควงยาง เพื่อหยุดความทุกข์ทรมานของมัน สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ เลือดสีม่วงของยูนิคอร์นมีพลังการรักษาอันน่าอัศจรรย์ โรคภูมิแพ้ของ Elliot หายขาด และสิวของ Ridley ก็หายวับไปในชั่วข้ามคืน เมื่อครอบครัว Leopold ประกอบด้วย Belinda (Téa Leoni) ภรรยาผู้เฉียบคม และ Shepard (Will Poulter) ลูกชายที่เป็นทายาทเสียได้ ค้นพบศพยูนิคอร์นในรถ พวกเขาเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายใต้การดูแลของ Dr. Song และทีมนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาเริ่มทดลองกับร่างของยูนิคอร์น การขูดเขาของมันทำเป็นยาที่รักษามะเร็งของ Odell ได้สำเร็จ ความโลภครอบงำจิตใจของ Leopold จนเขาตัดสินใจขนส่งยูนิคอร์นไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการวิจัยเต็มรูปแบบ โดยวางแผนผูกขาดคุณสมบัติการรักษาของมันเพื่อผลกำไรมหาศาล Ridley ผู้ได้ศึกษาเรื่องราวของ “The Unicorn Tapestries” พยายามเตือนครอบครัว Leopold ว่าพวกเขาไม่ควรใช้ร่างของยูนิคอร์นในทางที่ผิด แต่คำเตือนของเธอกลับถูกเพิกเฉย ในขณะที่ Shepard แอบขโมยผงเขายูนิคอร์นไปดูด ทำให้เขาได้รับนิมิตเหมือนกับ Ridley และกลายเป็นคนที่เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของยูนิคอร์น แต่สิ่งที่ครอบครัว Leopold ไม่รู้คือ ยูนิคอร์นตัวที่พวกเขาฆ่าเป็นเพียงลูก และพ่อแม่ของมันกำลังตามหามัน เมื่อยูนิคอร์นผู้ใหญ่สองตัวปรากฏตัวขึ้น พวกมันไม่ใช่สัตว์อ่อนโยนที่คนทั่วไปเข้าใจ แต่เป็นสัตว์นักล่าที่โหดเหี้ยม พร้อมแก้แค้นผู้ที่ทำร้ายลูกของพวกมัน การโจมตีครั้งแรกเริ่มขึ้นในห้องปฏิบัติการ Dr. Song และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนถูกฆ่าอย่างไร้ความปราณี Odell จัดตั้งกลุ่มนักล่าและบังคับให้ Elliot ร่วมด้วย แต่พวกเขากลับตกหลุมพรางตายที่ยูนิคอร์นตั้งไว้ รวมถึง Odell และคนอื่นๆ หลายคนเสียชีวิต ขณะที่ความโกลาหลปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์ Elliot กับ Ridley ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า พวกเขาไม่ได้แค่เป็นเหยื่อของสถานการณ์ แต่ยังต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง การเอาชีวิตรอดจากยูนิคอร์นผู้แก้แค้นกลายเป็นเรื่องของการเรียนรู้ที่จะเข้าใจและเคารพในสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเปิดตัวการกำกับของ Alex Scharfman ที่ผสมผสานความสยองขวัญ ตลกมืด และการวิพากษ์สังคมอย่างชาญฉลาด โดยใช้ยูนิคอร์นเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติที่ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยความโลภของมนุษย์ ที่สำคัญคือการใช้สัตว์ในตำนานเพื่อสะท้อนปัญหาของวงการเภสัชกรรมและทุนนิยมสมัยใหม่.หนังเรื่องนี้ได้รับการจัดจำหน่ายโดย A24 ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ที่กล้าแตกต่าง พร้อมคาสต์ที่โดดเด่น รวมถึงเอฟเฟกต์พิเศษที่ทำให้ยูนิคอร์นดูน่าเกรงขามและสวยงามไปพร้อมกัน เป็นการตีความใหม่ของสัตว์ในตำนานที่ทำลายความเชื่อเดิมและนำเสนอมุมมองที่ดำมืดและสมจริงยิ่งขึ้น

แนวหนัง:
Dark Fantasy | Horror Comedy | Satirical Thriller | Creature Feature | Black Comedy | Social Commentary | Corporate Satire | Monster Horror