สายลับกลับมาลุย Back in Action (2025)

บางครั้งอดีตที่เราพยายามฝังไว้ลึกกลับมาตามหาเราเมื่อเราคิดไม่ถึง และเมื่อครอบครัวที่สงบสุขต้องเผชิญกับความอันตรายจากโลกที่เคยทิ้งไว้เบื้องหลัง จีมี ฟ็อกซ์ และ คาเมรอน ดิแอซ กลับมาร่วมแสดงในภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้สุดมันส์เรื่องนี้ หลังจากที่ดิแอซ หายหน้าจากวงการภาพยนตร์มากว่า 11 ปี แมตต์ (จีมี ฟ็อกซ์) และ เอมิลี่ (คาเมรอน ดิแอซ) เคยเป็นสายลับ CIA ระดับเอลิตที่ทำงานร่วมกันในภารกิจเสี่ยงตายนับไม่ถ้วน จนกระทั่ง 15 ปีที่แล้ว พวกเขาตัดสินใจลาออกจากชีวิตในโลกของจารชนเพื่อมาใช้ชีวิตแบบครอบครัวธรรมดาๆ แต่งงานกัน และเลี้ยงดูลูกสองคนอย่างสงบสุข ชีวิตที่เรียบง่ายและปลอดภัยของพวกเขากำลังจะถูกทำลายลงเมื่อตัวตนที่แท้จริงของทั้งคู่ถูกเปิดเผย ข้อมูลลับของพวกเขาถูกเผยแพร่ ทำให้ศัตรูเก่าจากอดีตกลับมาตามล่าอีกครั้ง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือครอบครัวของพวกเขาถูกลากเข้าไปพัวพันกับโลกอันตรายที่พวกเขาพยายามหลบหนี ด้วยความจำเป็น แมตต์และเอมิลี่ต้องกลับสู่โลกของสายลับอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขาไม่ได้ทำภารกิจคนเดียว ลูกๆ สองคนของพวกเขาต้องมาร่วมผจญภัยด้วย ทำให้ภารกิจกลายเป็นการผจญภัยของครอบครัวที่ต้องเผชิญกับอันตรายที่มากกว่าที่เคยพบเจอมาก่อน อังคาร สก็อตต์, จีมี เดเมตริอู, ไคล์ แชนด์เลอร์ และ เกล็นน์ โคลส รับบทสำคัญในฐานะตัวละครที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้น ขณะที่ชัค (ไคล์ แชนด์เลอร์) อดีตเพื่อนและหัวหน้าของพวกเขา กลับมาติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับ Industrial Control Systems (ICS) อุปกรณ์ที่สามารถควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ก็ได้ ภารกิจนำพวกเขาไปเผชิญหน้ากับ บัลธาซาร์ กอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ KGB จากโปแลนด์ที่กลายเป็นผู้ก่อการร้าย และมีเครือข่ายอาชญากรรมที่แผ่ขยายไปทั่วโลก การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการปกป้องอุปกรณ์อันตราย แต่ยังเป็นการปกป้องครอบครัวและอนาคตของลูกๆ ผู้กำกับ เซ็ธ กอร์ดอน ผู้เขียนบทร่วมกับ เบรนดัน โอไบรอัน นำเสนอภาพยนตร์ที่ผสมผสานฉากแอ็คชั่นระเบิดสมองเข้ากับอารมณ์ขันครอบครัว และดราม่าเกี่ยวกับการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับภารกิจอันตราย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกผลิตด้วยงบประมาณสูงถึง 207.2 ล้านดอลลาร์ และถ่ายทำในหลายสถานที่ทั่วโลก ตั้งแต่ลอนดอน แอตแลนตา ไปจนถึงลูบลิยานา ประเทศสโลวีเนีย สร้างภาพแอ็คชั่นที่ตื่นตาตื่นใจและฉากต่อสู้ที่สมจริง Netflix ปล่อยภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2025 และทำยอดวิวได้ 46.8 ล้านครั้งในสามวันแรก กลายเป็นภาพยนตร์ภาษาอังกฤษที่เปิดตัวประสบความสำเร็จที่สุดของ Netflix

ประเภทหนัง:
Action Comedy, Spy Thriller, Family Adventure, Netflix Original