2073 (2024)

ในยุคที่โลกดิจิทัลกำลังกลืนกินอนาคตมนุษยชาติ หนังเรื่อง “2073” นำเสนอภาพยนตร์ไซไฟ-ดราม่าสุดดาร์กที่ผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์เชิงสมมุติกับข้อมูลเชิงคาดการณ์ที่หวนระหว่างอดีตและอนาคตอันน่าหวาดกลัวปี 2073 ณ นิวซานฟรานซิสโก “เมืองหลวงแห่งทวีปอเมริกา” รัฐตำรวจดิสโทเปียได้ปกครองโลก โดรนเฝ้าระวังเต็มท้องฟ้าสีส้มไหม้เกรียม ขณะที่ตำรวจติดอาวุธใส่เครื่องแบบสีดำเดินลาดตระเวนถนนที่พังทลาย ผู้รอดชีวิตต้องหลบซ่อนใต้ดิน พยายามจดจำความทรงจำของความเป็นอิสระและความหวังที่เคยมีเราได้พบกับตัวละครนามว่า “Ghost” หญิงใบ้ลึกลับ รับบทโดย ซาแมนธา มอร์ตัน (Samantha Morton) ผู้สูญเสียย่าไปเมื่อหลายปีก่อน เธอต้องดำรงชีวิตท่ามกลางซากของศูนย์การค้าอเมริกัน พยายามหลบเลี่ยงการตรวจจับด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่ตามล่าผู้ไม่พึงประสงค์ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจเส้นทางไปสู่วันสิ้นโลก โดยตั้งคำถามว่าสิ่งใดต้องล่มสลายและใครต้องขึ้นสู่อำนาจ หรือพวกเขาอยู่ในอำนาจอยู่แล้วหรือไม่ ผ่านการตัดต่อระหว่างภาพอนาคตกับเหตุการณ์จริงจากข่าวสาร การสัมภาษณ์นักข่าวผู้กล้าหาญอย่าง มาเรีย เรสซา (Maria Ressa), ราณา อัยยูบ (Rana Ayyub) และ แครอล แคดวอลลาดร์ (Carole Cadwalladr) ที่เผชิญกับการคุกคามและการเฝ้าระวังจากรัฐเพื่อการทำข่าวหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก “La Jetée” (1962) ผลงานคลาสสิกของ คริส มาร์เกอร์ (Chris Marker) และกำกับโดย อาซิฟ คาปาเดีย (Asif Kapadia) ผู้ได้รับรางวัลออสการ์จาก “Amy” ด้วยกล้องถ่ายภาพยนตร์โดย แบรดฟอร์ด ยัง (Bradford Young) ที่สร้างภาพวิชวลสุดตระการตาแต่หดหู่หนังเรื่องนี้ส่งสารว่า “นี่ไม่ใช่หนัง ไม่ใช่สารคดี แต่เป็นคำเตือน” ผ่านการแสดงภาพอนาคตที่มนุษยชาติต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างไม่น่าเชื่อกับปัญหาจริยธรรมที่ลึกซึ้ง

แนวหนัง:ไซไฟ-ดราม่า (Sci-Fi Drama), สารคดีเชิงคาดการณ์ (Speculative Documentary), ดิสโทเปีย (Dystopian), ระทึกขวัญ (Thriller)