The Purge (2013) คืนอำมหิต

ในโลกอนาคตที่ความชั่วร้ายได้รับการทำให้ถูกกฎหมาย “The Purge” นำเสนอแนวคิดที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ที่สั่นสะเทือนวงการหนังสยองขวัญตลอดกาล ด้วยงบประมาณเพียง 3 ล้านเหรียญ หนังเรื่องนี้กลับทำรายได้กว่า 90 ล้านเหรียญ พิสูจน์ว่าไอเดียที่ดีไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก ปี 2022 สหรัฐอเมริกาภายใต้การปกครองของ “บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งใหม่แห่งอเมริกา” ได้กลายเป็นประเทศที่มีอัตราอาชญากรรมและการว่างงานต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยระบบที่น่าขนลุกชื่อ “The Purge” หรือ “คืนอำมหิต” ช่วงเวลา 12 ชั่วโมงในคืนหนึ่งของทุกปี ที่อาชญากรรมทุกประเภท รวมถึงการฆาตกรรม กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายเจมส์ แซนดิน (อีธาน ฮอว์ก) ผู้ขายระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับบ้านหรู ได้สร้างฐานะร่ำรวยจากความกลัวของเพื่อนบ้านที่ต้องการปกป้องตัวเองในคืนโหดร้าย เขาอาศัยอยู่ในชุมชนที่อยู่อาศัยของคนรวยพร้อมกับภรรยา แมรี่ (ลีน่า ฮีดี้) และลูกสองคน โซอี้ (แอดิเลด เคน) วัยรุ่นสาวกับ ชาร์ลี (แม็กซ์ เบิร์กโฮลเดอร์) เด็กหนุ่มผู้มีจิตใจเมตตา ในคืน Purge ประจำปี ครอบครัวแซนดินเตรียมความพร้อมรอเวลาผ่านไปอย่างปลอดภัยภายในบ้านที่มีระบบการป้องกันที่ล้ำสมัย แต่เหตุการณ์เริ่มพลิกผันเมื่อชาร์ลีเห็นชายแปลกหน้าที่บาดเจ็บ (เอ็ดวิน ฮอดจ์) วิ่งหลบหนีกลุ่มคนที่ต้องการฆ่าเขาข้างนอกบ้าน ด้วยใจเมตตาของเด็ก ชาร์ลีจึงปิดระบบรักษาความปลอดภัยชั่วคราวเพื่อให้ชายคนนั้นเข้ามาซ่อนตัว การกระทำนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่แท้จริง เมื่อกลุ่มฆาตกรสวมหน้ากากที่นำโดยหนุ่มใส่สูทผู้พูดจาสุภาพแต่โหดเหี้ยม (ไรส์ เวคฟิลด์) ล้อมบ้านแซนดินไว้ พวกเขาเรียกร้องให้ครอบครัวส่งมอบชายแปลกหน้าออกมา หรือจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา สิ่งที่เริ่มต้นเป็นคืนที่ควรจะสงบเงียบ กลายเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดที่ทำให้ครอบครัวแซนดินต้องเผชิญหน้ากับคำถามทางศีลธรรมที่ยาก พวกเขาจะเลือกรักษาตัวเองโดยการส่งมอบคนบริสุทธิ์ หรือจะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องแม้จะต้องเสี่ยงชีวิต ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่เป็นหนังสยองขวัญธรรมดา แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ความรุนแรง และระบบการเมืองที่ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือควบคุม ผ่านการกำกับของเจมส์ เดอโมนาโค ที่สร้างบรรยากاศอึมครึมและความตึงเครียดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของอีธาน ฮอว์กและลีน่า ฮีดี้ สร้างมิติให้กับตัวละครที่ต้องเปลี่ยนจากผู้ที่ใช้ประโยชน์จากระบบไปเป็นผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอันโหดร้าย ขณะที่ไรส์ เวคฟิลด์ แสดงผู้ร้ายที่น่าขนลุกด้วยความสุภาพที่ปกปิดความโหดเหี้ยม”The Purge” ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ที่ขยายไปสู่ภาคต่อหลายเรื่องและซีรีส์ทีวี ด้วยการสร้างจักรวาลที่น่าสะพรึงกลัวแต่เต็มไปด้วยข้อคิดเกี่ยวกับสังคมและการเมืองเ ตรียมพบกับคืนที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณเกี่ยวกับความยุติธรรม ความปลอดภัย และราคาของความอยู่รอด ในโลกที่ความชั่วร้ายไม่ได้ถูกปราบปราม แต่กลับได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

แนวหนัง:
สยองขวัญ ระทึกขวัญ ไซไฟ ดิสโทเปีย (Horror Thriller, Dystopian Sci-Fi, Home Invasion)